ในปัจจุบันนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกระเป๋าใช่มั๊ยคะ ตั้งแต่เล็กเราก็ต้องถือกระเป๋าไปโรงเรียน จนเข้ามหาลัย ต่อวัยทำงาน ไม่ว่าจะทำจากหนัง หรือ ผ้า เราก็ใช้ใส่ข้าวของเครื่องใช้อยู่เป็นประจำ เป็นเรื่องปกติ แต่เคยสงสัยมั๊ยคะว่า ใคร กลุ่มใด ประเทศใด เป็นคนแรกที่คิดเจ้าภาชนะใส่ของอันแสนน่่ารักนี้ขึ้นมา แล้วทำไมถึงมีรูปร่างเป็นแบบปัจจุบันนี้
www.visavivamarts.com ได้ไปค้นประวัติของกระเป๋าแฟชั่น เท่าที่หลักฐานมีระบุไว้
มาฝากสาวๆที่อยากรู้กันคะ
ถ้าจะระบุว่าใคร ประเทศใดผลิตขึ้นมาเป็นเจ้าแรก คงระบุได้ยาก หากไปถามที่จีน ก็ต้องบอกว่าอั๊วเป็นคงทำ ลื๊อไม่เคยเห็นถุงผ้าในหนังจีนกำลังภายในเหรอ แล้วประวัติศาสตร์ประเทศอั๊วมีเป็นหลายพันปี เพราะฉะนั้นอั๊วนี่แหละเจ้าแรก แต่ถ้าไปถามอียิปต์ กรีก โรมัน ก็ต้องบอกว่าไอเอง เช่นเดียวกับอังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา ที่เป็นผู้นำด้านแฟชั่น ก็ต้องบอกประเทศตน เอาเป็นว่า เท่าที่มีระบุชัดๆเป็นลายลักษณ์อักษร เค้าระบุว่า เกิดจากนักบวชชาวอาฟกัน ต้องการหาภาชนะไว้ใส่เครื่องราง อัญมณีต่างๆ เลยนำหนังของสัตว์ มาเย็บเป็นถุงขนาดหนึ่งฝ่ามือ และทำเป็นเชือกผูกติดเอวเอาไว้ ในสมัยนั้น ทรงกระเป๋าจึงเป็นลักษณะถุงๆ ทำจากผ้า หรือ หนังสัตว์ ไว้เก็บของมีค่าต่างๆคะ
ในยุคเริ่มแรก กระเป๋าจึงเป็นตัวบ่งบอก ถึงฐานะทางสังคม ความลับ และพลังอำนาจ
เพราะในยุคนี้จะมีรูปร่างเหมือนกับถุง จึงมีการบัญญัติศัพท์ขึ้นมา เป็นศัพท์สแลงที่หมายความถึง ครรภ์ของสตรี
วัสดุเริ่มแรกที่ใช้ผลิต จะเป็นหนังสัตว์ ผ้า มีเครื่องตกแต่ง ประเภทหิน ลูกปัดไม้ และอัญมณีต่างๆคะ
ต่อมามีแพร่หลายในประเทศอียิปต์ รูปแบบจะเหมือนๆกันกับอาฟริกัน มีชื่อเรียกว่า drawstring bag มีลักษณะเป็นถุงหนัง และถุงผ้า
เช่นเดียวกัน และทำเป็นเชือกผูกติดกับเข็มขัดคาดเอว ใช้ใส่ของมีค่า อัญมณีต่างๆ รวมถึงเงินที่ใช้ในยุคนั้นด้วยคะ แบบนี้ฮิตกันมาก ในปีคริสตศักราชที่ 14 ถึง 15 ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลยคะ ดอร์สตริงแบ๊ค จะนิยมตกแต่งด้วยอัญมณีมีค่า การปักผ้าเป็นลายต่างๆ เพราะจะเป็นตัวบอกถึงฐานะทางสังคมคะ
กระเป๋านี้ มีรูปร่าง และขนาดแตกต่างกันคะ อยู่ที่ว่าใช้ใส่อะไร ทั้งของมีค่า เงิน เครื่่องประดับ อาหาร หรือแม้แต่อาวุธ เช่น มีดสั้น เป็นต้น
ใน ค.ศ.16-17 การแต่งกายของชาย หญิง ในยุคนี้ จะเปลี่ยนไปคะ ผู้หญิงจะใส่ชุดเดรสที่บานเป็นสุ่ม ดังนั้นกระเป๋าคาดเอว ในยุคก่อน ก็จะไม่เหมาะอีกต่อไปคะ เพราะไม่สามารถนำมาห้อยกับเอวได้ แบบที่เรียกว่า drawstring จึงไม่ได้ถูกนำมาใช้ แต่สตรีในยุคนี้ จะเก็บสิ่งของมีค่า ไว้ในช่องเก็บของภายในกระโปรง ส่วนผู้ชาย ก็จะเก็บไว้ที่ถุงด้านข้างกางเกง ด้านในจะบุด้วยหนังแท้ เหมือนกับกางเกงขี่ม้า แต่จะมีกระเป๋าใหญ่ๆด้านข้างคะ
ต่อมาได้ประยุกต์นำ ดอกไม้แห้ง ถุงหอม เก็บไปไว้ในช่องด้านในกระโปรง หรือกางเกงด้วย เวลาไปไหนมาไหน เหมือนพกน้ำหอมติดตัวตลอด เริ่ดเลยใช่มั๊ยหละคะ
ต่อมาในยุคปฎิวัติฝรั่งเศส ช่วง ค.ศ.18 ชุดสุ่มของผู้หญิง ได้ลดขนาดลง รวมถึงชุดของผู้ชายด้วยคะ ได้มีการออกแบบให้มีขนาดที่แนบลำตัวมากขึ้น เพื่อให้คล่องตัวในการเดินเหิน ใช้ชีวิตประจำวัน จากที่เคยต้องหลบซ่อนไว้ในกระโปรง หรือ กางเกง เริ่มไม่ได้รับความนิยม เพราะความที่ไม่คล่องตัวเท่าไหร่ กับการเปลี่ยน แปลงทางวัฒนธรรม เสื้อผ้าในยุคนี้จึงมีการย่อขนาดให้เล็กลง สุภาพสตรี และสุภาพบุรุษ ในยุคนี้ จึงหันกลับมานิยมใช้กระเป๋าแฟชั่น สำหรับถือแทน แต่ก็ยังคงใช้แบบดั้งเดิม คือ ขนาดไม่ใหญ่ ไปจนเล็กอยู่คะ
ในยุคต่อมา คือยุคปฎิวัติอุตสาหกรรม ในช่วง ค.ศ.19 ได้มีการพัฒนาการขนส่ง การคมนาคม มากมาย เริ่มแรกก็คือ ทางรถไฟ ดังนั้นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ จึงมีการใช้แพร่หลายในยุคนี้คะ เพราะต้องใช้เดินทางแบกสัมภาระไปไหนมาไหนได้สะดวก ลักษณะการออกแบบในยุคนี้ จึงเน้นที่ความคล่องตัว พกพาได้สะดวกคะ รูปร่างจะเหมือนกล่องที่เราเคยเห็นกันในหนังย้อนยุคคะ ทำจากหนังแท้บ้าง หรือจากไม้บ้าง
รูปแบบในสมัยนี้นั้น จะมีการประดิษฐ์รูปทรงเพิ่มเติมมากมาย จนถึงปัจจุบัน ซึ่งแบบไหน ทรงไหนนั้น จะเป็นไปตามนีดในแต่ละประเทศ และค่านิยมของสังคมนั้นๆคะ
เป็นยังไงคะ กระเป๋าที่เราใช้อยู่นี้ มีประวัติอันยาวนานมากเลยคะ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ ลวดลายใดๆก็ตาม ไอเท็มนี้ก็เป็นเครื่องตกแต่งที่แสดงถึงรสนิยม ไลฟ์สไตล์ ของเราได้อย่างดีเลยคะ
ที่มา : http://www.visavivamarts.com
